ประวัติศาสตร์ประเทศอินโดนีเซีย
อินโดนีเซีย หรือชื่อทางการคือ สาธารณรัฐอินโดนีเซีย (Republic of
Indonesia) เป็นหมู่เกาะที่ใหญ่ที่สุดในโลก เมืองหลวงคือกรุงจาการ์ตา (Jakarta) มีพื้นน้ำกว้างใหญ่กว่าผืนดินเกือบเท่าตัว โดยมีพื้นที่ทางบก 1,904,443 ตารางกิโลเมตร
พื้นที่ทางทะเล 3,166,163 ตารางกิโลเมตร รวมทั้งหมด
5,070,606 ตารางกิโลเมตร ประกอบไปด้วยหมู่เกาะน้อยใหญ่ประมาณ 17,500
เกาะ
และมีจำนวนประชากรประมาณ 243 ล้านคน
คำว่า “อินโดนีเซีย” มาจากคำในภาษากรีกสองคำ คือ
“อินโดซ” หมายถึง อินเดียตะวันออก และ
“นิโซส” หมายถึง เกาะ
จึงมีความหมายว่า หมู่เกาะอินเดียตะวันออก
สัตว์ประจำชาติ คื อ มังกรโคโมโด (Komodo Dragon) เป็นสัตว์เลื้อยคลานในตระกูลเดียวกับตะกวดและตัวเงินตัวทอง และจัดเป็นชนิดที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตัวโตเต็มวัยมีขนาดความยาว 2-3 เมตร น้ำหนักประมาณ 90 กิโลกรัม มีสีเทาดำ ลำตัวใหญ่และยาวกว่าตัวตัวเงินตัวทองทั่วไป สันนิษฐานว่าอยู่มานานนับล้านปี พบบนเกาะโคโมโดและอีกหลายเกาะนอกจากนี้ยังมี ปลาตะพัด ลิงอุรังอุตัง เสือโคร่งสุมาตรา แรดชวา และอินทรีเหยี่ยวชวา ที่ถือเป็นสัตว์ประจำชาติด้วย
ลักษณะภูมิประเทศและภูมิอากาศ
อินโดนีเซียมีรูปร่างคล้ายพระจันทร์หงายครึ่งซีก
มีพื้นที่ 5,193,250 ตารางกิโลเมตร หรือใหญ่กว่าประเทศไทยประมาณ 10 เท่า
เป็นพื้นดิน 2,027,087 ตารางกิโลเมตร และทะเล 3,166,163 ตารางกิโลเมตร
อินโดนีเซียประกอบด้วยเกาะใหญ่น้อยกว่า
17,500 เกาะ แต่มีประชากรอาศัยอยู่เพียง 3,000 เกาะ รวมอยู่ในพื้นที่ 4 ส่วนคือ
1) หมู่เกาะซุนดาใหญ่
(Great
Sunda Islands) ประกอบด้วย เกาะชวา สุมาตรา กะลิมันตัน
และสุลาเวสี
2) หมู่เกาะซุนดาน้อย
(Lesser
Sunda Islands) ประกอบด้วยเกาะเล็กๆ ทางตะวันออกของเกาะชวา
มีเกาะบาหลี ล็อมบอก ซุมบาวา ฟอลเรส และติมอร์
3) หมู่เกาะมาลุกุ (Maluku
Islands) หรือหมู่เกาะเครื่องเทศ อยู่ระหว่างสุลาเวสีกับเกาะปาปัว
4) ปาปัว (Papua)
อยู่บนเกาะนิวกินีทางตะวันตกของประเทศปาปัวนิวกินี
ในบรรดาหมู่เกาะทั้งหมด มีเกาะขนาดใหญ่ 5 เกาะ ครอบคลุมพื้นที่ประมาณร้อยละ 90
ของประเทศ
เมืองใหญ่สำคัญของอินโดนีเซีย
ได้แก่
-
จาการ์ตา (Jakarta) หรือในอดีตชื่อ “ปัตตาเวีย” (Batavia) เป็นเมืองหลวงและเมืองใหญ่ที่สุดของอินโดนีเซีย
ตั้งอยู่บริเวณชายฝั่งทะเลด้านตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะชวา มีพื้นที่ 650
ตารางกิโลเมตร ประชากร 10 ล้านคน
เป็นศูนย์กลางทั้งด้านการปกครองและเศรษฐกิจของประเทศ มีสนามบินนานาชาติคือ Soekarno
Hatta International Airport มีท่าเรือใหญ่ที่สุดของประเทศ คือ Tanjung
Priok
-
สุราบายา (Surabaya) เป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 ของประเทศ
อยู่บนเกาะชวา ประชากรประมาณ 2.5 ล้านคน ทรัพยากรธรรมชาติสำคัญคือ หินชอล์ก
ทำให้จังหวัดนี้มีชื่อเสียงด้านอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ อีกทั้งยังมีหินอ่อน น้ำมัน
และเกลือ มีสนามบินนานาชาติคือ Juanda Airport และท่าเรือ Tanjung
Perak
-
ยอกยาการ์ตา (Yogyakarta) อยู่บนเกาะชวา
เป็นศูนย์กลางทั้งด้านศิลปะ และวัฒนธรรม นอกจากนั้นยอกยาการ์ตา
ยังเป็นที่ตั้งของบุโรพุทโธ (Borobudur) พุทธสถานที่มีชื่อเสียงและสำคัญยิ่งแห่งหนึ่งในภูมิภาคนี้
รวมถึงหมู่วิหารโบราณฮินดู คือ ปรามบานัน (Pram-banan) สนามบินหลักคือ
Adi Sucipto Airport
-
เมดาน (Medan)
เป็นเมืองหลวงและเมืองใหญ่ที่สุดของเกาะสุมาตรา มีประชากร 2.1
ล้านคน เมดานเป็นแหล่งเพาะปลูกใหญ่ที่สุด ของอินโดนีเซีย ทั้งปาล์มน้ำมัน ชา โกโก้
ยางพารา และยาสูบ นอกจากนั้น ยังมีแร่ธาตุสำคัญ อาทิ น้ำมัน และก๊าซ
มีสนามบินนานาชาติ คือ Polonia Airport และท่าเรือ Belawan
Port
-
เรียว (Riau)
อยู่บนเกาะสุมาตรา มีพื้นที่ 95 พันตารางกิโลเมตรประชากร 5.4 ล้านคน
พืชเศรษฐกิจสำคัญคือ มะพร้าว ยางพารา ชา และโกโก้ นอกจากนี้ ยังมีไม้มีค่าต่างๆ
และน้ำมันปิโตรเลียม โดยสินค้าส่งออกสำคัญคือ น้ำมันปิโตรเลียม ผลิตภัณฑ์ไม้
สนามบินสำคัญคือ Sultan Syarif Kasim II Airport ท่าเรือคือ Batu
Ampar Port
-
แจมบี (Jambi)
อยู่บนเกาะสุมาตรา มีพื้นที่ 44.8 พันตารางกิโลเมตร ประชากร 2.5
ล้านคน พืชเศรษฐกิจหลัก ได้แก่ มะพร้าว โกโก้ และชา นอกจากนั้นยังมีแร่ธาตุอื่นๆ
อาทิ น้ำมันปิโตรเลียม ถ่านหิน ทองแดง สินค้าส่งออกสำคัญคือ ผลิตภัณฑ์ไม้
ผลิตภัณฑ์จากป่า สนามบินหลัก คือ Sultan Thaha Airport
-
ปาเลมบัง (Palembang) อยู่บริเวณสุมาตราใต้
พืชเศรษฐกิจหลัก ได้แก่ มะพร้าว ปาล์มน้ำมัน ยาง กาแฟ พริกไทย ชา
สินค้าส่งออกสำคัญคือ ยาง กาแฟ สนามบินหลัก คือ Sultan Baharudin II
Airport ท่าเรือคือ Boom Baru Port
-
เดนปาซาร์ (Denpasar) เป็นเมืองหลวงของเกาะบาหลี (Bali)
อันเป็นแหล่งท่องเที่ยวมีชื่อเสียงด้านความงดงามของธรรมชาติและชายหาดที่สวยงาม
สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้ปีละกว่า 1 ล้านคน สนามบินนานาชาติ คือ Gusti
Ngurah Rai International Airport
ภูมิอากาศ
อินโดนีเซียเป็นหมู่เกาะ
ภูมิอากาศจึงมีลักษณะผสมผสานและเปลี่ยนแปลงไปตามภูมิประเทศ โดยทั่วไปมีอากาศร้อนชื้นแบบศูนย์สูตร
แบ่งเป็น 2 ฤดู คือ
1. ฤดูแล้ง ระหว่างเดือนพฤษภาคมถึงตุลาคม
2. ฤดูฝน ระหว่างเดือนพฤศจิกายนถึงเมษายน
ที่มา
ที่มา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น