วันพฤหัสบดีที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ว่านหางจรเข้


         "ว่านหางจรเข้"  เป็นไม้ล้มลุกใบใหญ่หนาที่ทุกคนรู้จักกันดี แม้ถิ่นกำเนิดจะอยู่ไกลถึงฝั่งเมดิเตอร์เรเนียน และแอฟริกา แต่ในประเทศไทยก็มีการปลูกว่านหางจระเข้อย่างแพร่หลาย ซึ่งในตำรับยาไทยก็ใช้ว่านหางจระเข้บำบัดอาการต่าง ๆ ได้มากมาย จนเป็นที่รู้จักว่า เป็นพืชอัศจรรย์ที่มีสรรพคุณสารพัดประโยชน์

          โดย "วุ้นในใบสด" สามารถนำมาบรรเทาอาการปวดศีรษะได้ แต่สรรพคุณเด่น ๆ ที่ทุกคนน่าจะรู้จักก็คือ นำมาพอกแผลน้ำร้อนลวก ไฟไหม้ แก้ปวดแสบปวดร้อน แผลเรื้อรัง รักษาผิวที่ถูกแดดเผา แผลในกระเพาะอาหาร และช่วยถอนพิษได้ เพราะว่านหางจระเข้มีสรรพคุณช่วยสมานแผล แต่มีข้อแนะนำว่า ก่อนใช้ควรทดสอบดูก่อนว่าแพ้หรือไม่ โดยเอาวุ้นทาบริเวณท้องแขนด้านใน ถ้าผิวไม่คันหรือแดงก็ใช้ได้ นอกจากส่วนวุ้นในใบสดแล้ว ส่วน "ยางในใบ" ก็สามารถนำมาทำเป็นยาระบายได้ และส่วน "เหง้า" ก็นำไปต้มน้ำรับประทาน แก้โรคหนองในได้ด้วย

หน้าใสไร้สิว ด้วยว่านหางจระเข้
           สำหรับการใช้ทาเพื่อรักษาอาการหัวสิวอักเสบ ก็จะทำให้หัวสิวแห้งเร็ว นอกจากนี้ว่านหางจระเข้ยังสามารถลดความแห้งกร้าน และลดความมันของผิวหน้าได้ หรือแม้กระทั่งคนที่มีผิวหน้าแห้ง ก็ยังช่วยคืนความชุ่มชื่นของผิวได้ด้วย โดยนำใบว่านหางจระเข้ใบแก่ที่มีวุ้นมาก นำมาแช่น้ำเพื่อล้างยางออกให้หมดจึงปอกเปลือกออก แล้วนำวุ้นที่ได้มาล้างน้ำให้สะอาดอีกครั้ง ขยำเนื้อวุ้นหรือนำไปปั่น แต่ไม่ต้องละเอียดมาก
        วิธีใช้   ล้างหน้าให้สะอาด เช็ดหน้าให้แห้ง แล้วใช้ว่านหางจระเข้ที่ปั่น พอกให้ทั่วหน้ายกเว้นรอบดวงตา ทิ้งไว้ 15-20 นาที จึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด แต่สำหรับคนผิวแห้งให้เพิ่มน้ำมันมะกอกผสมลงไปเล็กน้อย
         หมายเหตุ ไม่ควรใช้ว่านหางจระเข้กับสิวที่มีหัวเป็นหนอง เพราะเยื่อจากว่านจะไปเคลือบทำให้สิวหายช้า




ที่มา
  http://health.kapook.com/view37827.ht
  www.xn--42c8ao1akazf5c2be0gsk.net


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น