ภาคเหนือ หรือล้านนาไทย
เป็นดินแดนที่มีศิลปวัฒนธรรมเฉพาะถิ่นเป็นของตนเอง
เป็นเหตุให้เครื่องจักสานในภาคเหนือมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างไปจากภาคอื่น นอกจากนี้
ภาคเหนือหรือล้านนาไทยมีสภาพภูมิศาสตร์ที่แตกต่างไปจากภาคอื่นๆ สภาพการประกอบอาชีพด้านเกษตรกรรมทำให้ภาคเหนือเป็นแหล่งผลิตเครื่องมือเครื่องใช้จักสานที่สำคัญ
นอกจากนี้ ภาคเหนือยังมีวัตถุดิบหลายชนิดที่นำมาทำเครื่องจักสานได้ เช่น กก แหย่ง ใบลาน และไม้ไผ่
โดยเฉพาะอย่างยิ่งไม้ไผ่ซึ่งมีหลายชนิดที่ใช้ทำเครื่องจักสานได้ดี
นอกจากสภาพภูมิประเทศและการประกอบอาชีพของภาคเหนือที่เอื้ออำนวยให้ประชาชนทำเครื่องจักสานแล้ว
ศิลปวัฒนธรรม ขนบประเพณีและศาสนาของภาคเหนือ
ก็เป็นองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้เครื่องจักสานภาคเหนือมีเอกลักษณ์เป็นของตนเอง
ภาคเหนือหรือล้านนาไทยเป็นดินแดนที่เจริญรุ่งเรืองอยู่ในวงล้อมของขุนเขา
ทำให้ภาคเหนือมีศิลปวัฒนธรรมเป็นของตนเองมาแต่โบราณมีภาษาพูด ภาษาเขียน ขนบประเพณี
เป็นของตนเอง
เอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมเฉพาะถิ่นเหล่านี้เป็นอีกองค์ประกอบหนึ่งที่ทำให้เครื่องจักสานภาคเหนือมีเอกลักษณ์ของตนเอง
การทำเครื่องจักสานพื้นบ้านภาคเหนือหรือล้านนาไทยนั้น
ทำสืบต่อกันมาแต่โบราณ ดังมีหลักฐานปรากฏในภาพจิตรกรรมฝาผนังหลายแห่ง เช่น
ภาพชาวบ้านกับเครื่องจักสานในภาพจิตรกรรมฝาผนังวิหารวัดพระสิงห์วรวิหารอำเภอเมืองเชียงใหม่
จังหวัดเชียงใหม่ เป็นภาพชาวบ้านกำลังนั่งสนทนากันอยู่ ข้างๆ ตัวมีภาชนะจักสานชนิดหนึ่งที่เรียกว่า
เปี้ยด หรือกระบุงวางอยู่รูปทรงของเปี้ยดในภาพคล้ายกับเปี้ยดที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน
แสดงว่าชาวล้านนาสานเปี้ยดใช้มานานนับร้อยปี
นอกจากภาพจิตรกรรมฝาผนังวัดสิงห์วรวิหารแล้ว
ยังมีภาพของเครื่องจักสานปรากฏในภาพจิตรกรรมฝาผนังอีกหลายภาพ เช่น ภาพจิตรกรรมฝาผนังวิหารวัดบวกครกหลวง
อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ จิตรกรรมฝาผนังวิหารวัดภูมินทร์ อำเภอเมือง
จังหวัดน่าน
นอกจากนี้
วัฒนธรรมการบริโภคข้าวเหนียวของชาวเหนือ
ก็เป็นองค์ประกอบสำคัญอีกประการหนึ่งที่ทำให้เกิดเครื่องจักสานที่เกี่ยวเนื่องกับการบริโภคข้าวเหนียวหลายอย่าง
เช่น ลังถึงก๋วย ซ้าหวด ก่องข้าว กระติบข้าว แอบข้าวขันโตก ฯลฯ
เครื่องจักสานเหล่านี้หลายชนิดมีลักษณะเฉพาะถิ่นโดดเด่น ได้แก่ ก่องข้าว แอบข้าว
เปี้ยด เป็นต้น
ก่องข้าว ภาชนะสำหรับใส่ข้าวเหนียวนึ่งสานด้วยไม้ไผ่
มีขนาดและรูปทรงต่างๆ กัน ก่องข้าวของภาคเหนือทั่วไปแบ่งออกเป็น ๓ ส่วน คือส่วนฐาน
มักจะทำด้วยไม้เป็นรูปกากบาทติดอยู่กับส่วนก้นเพื่อใช้เป็นฐานสำหรับตั้ง ตัวก่อง
มักสานก้นเป็นรูปสี่เหลี่ยมหรือกลมต่อขึ้นมาเป็นทรงกระบอกคอคอดเข้าเล็กน้อย
ส่วนที่สามคือฝา มีลักษณะเป็นฝาครอบ มักจะมีหูสำหรับร้อยเชือกที่ใช้เป็นที่หิ้วหรือแขวนมาจากตัวก่องรูปแบบของก่องข้าวในปัจจุบัน
บางท้องถิ่นได้วิวัฒนาการเปลี่ยนแปลงไปจากโบราณบ้าง เช่นสานด้วยพลาสติกแทนตอก
และมีรูปทรงแปลกๆแตกต่างกันไปตามความนิยมของผู้ใช้
แต่ประโยชน์และความสวยงามไม่สมบูรณ์ลงตัวเหมือนก่องข้าวที่สานด้วยไม้ไผ่
แอบข้าว หรือ แอ๊บข้าว ภาชนะใส่ข้าวเหนียวเช่นเดียวกับก่องข้าว
แต่มีขนาดเล็กกว่าสำหรับพกพาติดตัวเวลาไปทำงานนอกบ้าน แอบข้าว
มีส่วนประกอบสำคัญคือ ตัวแอบรูปร่างคล้ายกล่องสี่เหลี่ยมผืนผ้า
ฝาแอบรูปร่างเหมือนตัวแอบแต่ขนาดใหญ่กว่า เพราะใช้ครอบแอบข้าวแอบข้าวเหมาะสำหรับพกใส่ถุงย่าม
ห่อผ้าคาดเอวออกไปทำนา ทำไร่ เช่นเดียวกับกล่องใส่อาหารในปัจจุบัน
ก่องข้าวและแอบข้าวของภาคเหนือ
เป็นเครื่องจักสานที่มีความสมบูรณ์ทั้งในด้านรูปแบบและประโยชน์ใช้สอย
สอดคล้องกับความนิยมของประชาชนแต่ละถิ่น
นอกจากนี้ในภาคเหนือยังมีเครื่องจักสานที่มีเอกลักษณ์เฉพาะถิ่นที่ใช้กันแพร่หลายอีกหลายอย่าง
เช่น บุง หรือ เปี้ยด ภาชนะสานสำหรับใส่ของเช่นเดียวกับกระบุงของภาคกลาง
แต่บุงภาคเหนือมีรูปร่างต่างกันไป เช่น บุงเมืองแพร่ บุงลำพูนหรือบุงลำปาง
จะมีขนาดค่อนข้างเล็กกว่ากระบุงภาคกลาง ทั้งนี้อาจจะเป็นเพราะต้องการลดน้ำหนักของบุงให้น้อย
เพราะบุงภาคเหนือใช้หาบของในภูมิประเทศที่เป็นเนิน
ไม่สามารถหาบของที่มีน้ำหนักมากเหมือนกับภาคกลางซึ่งเป็นพื้นราบ
ด้วยเหตุนี้จึงทำให้บุงภาคเหนือมีลักษณะป้อมกลมไม่เป็นเหลี่ยมเหมือนกระบุงภาคกลางนั้นช่วยให้บุงมีความคงทน
ไม่แตกหักเสียหายง่ายเมื่อกระทบกระแทกกับสิ่งอื่น ใช้งานได้นาน
การสานบุงภาคเหนือ
จะสานก้นเป็นแผงสี่เหลี่ยม ด้วยลายสองก่อน ถัดขึ้นมาตรงกลางหรือกระพุ้งสานลายสาม
ส่วนปากที่โค้งสอบเข้าสานลายหนึ่ง และใช้ตอกค่อนข้างเล็กเพื่อความแข็งแรงทนทาน
การสานปากของบุงจะต่างกันไปตามความนิยมของท้องถิ่น เช่น บุงเชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง
จะเข้าขอบปากด้วยไม้ไผ่และหวาย ต่างกับบุงเมืองแพร่และน่าน
จะสานขอบในตัวโดยการเม้มตอกสานสอดกันเป็นขอบแทนการเข้าขอบด้วยไม้ไผ่
บุงภาคเหนือนอกจากจะใช้ใส่เมล็ดข้าวเปลือก เมล็ดพืชพันธุ์ต่างๆ แล้ว
ยังใช้เป็นภาชนะสำหรับตวงหรือวัดปริมาณของเมล็ดพืชผลด้วยโดยใช้ขนาดของบุงเป็นเกณฑ์
เช่น บุงสามสิบห้าบุงสามสิบ คือ บุงที่มีความจุสามสิบห้าลิตร และบุงจุสามสิบลิตร
เป็นต้น ในการสานบุงที่จะใช้ทำเครื่องตวงนี้จำเป็นจะต้องมีแบบหรือ
"หุ่น" ที่สานด้วยไม้ไผ่ให้มีขนาดมาตรฐานเป็นแบบและยังช่วยให้บุงมีรูปทรงที่ดี
ไม่บิดเบี้ยว มีความจุตรงตามต้องการ
บุง หรือกระบุงของภาคเหนือดังกล่าว
เป็นเครื่องจักสานที่มีเอกลักษณ์และความงามเฉพาะถิ่นของภาคเหนือ
แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างเครื่องจักสานกับประเพณีนิยมของท้องถิ่นทำให้เครื่องจักสานได้รับการออกแบบให้มีรูปทรงที่มีความสมบูรณ์ทั้งด้านใช้สอยและความสวยงาม
เครื่องจักสานของภาคเหนือที่มีเอกลักษณ์เฉพาะถิ่นโดดเด่นอีกอย่างหนึ่ง
คือ น้ำทุ่ง หรือน้ำถุ้ง เป็นภาชนะสานด้วยไม้ไผ่ยาด้วยชันและน้ำมันยาง
ใช้สำหรับตักน้ำจากบ่อน้ำ รูปร่างของน้ำทุ่งเหมาะสมกับประโยชน์ใช้สอยเป็นอย่างดีคือ
มีลักษณะคล้ายกรวยป้อมๆ ส่วนก้นมนแหลม
ที่ปากมีไม้ไขว้กันเป็นหูสำหรับผูกกับเชือกเพื่อสาวน้ำทุ่งขึ้นมาจากบ่อน้ำ ความมน
แหลมของก้นน้ำทุ่งจะช่วยให้น้ำทุ่งโคลงตัวคว่ำลงให้น้ำเข้าเมื่อโยนลงไปในบ่อ
นอกจากนี้ ลักษณะการสานที่แข็งแรงยังช่วยให้น้ำทุ่งมีความทนทาน
แม้ในปัจจุบันจะมีผู้ผลิตน้ำทุ่งด้วยสังกะสีแต่ความคงทนและประโยชน์ใช้สอยสู้น้ำทุ่งที่สานด้วยไม้ไผ่ไม่ได้
แสดงว่าเครื่องจักสานพื้นบ้านที่คนโบราณผลิตขึ้นนั้น
เลือกใช้วัตถุดิบท้องถิ่นมาใช้ได้อย่างเหมาะสม และใช้ประโยชน์ได้เป็นอย่างดี
นอกจากตัวอย่างของเครื่องจักสานไม้ไผ่ภาคเหนือดังกล่าวแล้ว
ยังมีเครื่องจักสานที่ใช้ในชีวิตประจำวันอีกหลายชนิด เช่น ซ้าหวด กัวะข้าว
ก่องข้าว แอบข้าว โตก ฝาชี แอบหมาก แอบเมี้ยง ซ้าชนิดต่างๆ หมวกหรือกุบ
ก๋วยก๋วยก้า ก๋วยหมู ก๋วยโจน เข่งลำไย ซ้าล้อม ซ้าตาห่าง ซ้าตาทึบ หรือบุงตีบ
น้ำทุ่ง น้ำเต้า คุ วี ต่างเปี้ยด หรือบุงชนิดต่างๆ เปลเด็ก เอิบ ไซชนิดต่างๆ สุ่ม
ฯลฯ
เครื่องจักสานภาคเหนือยังทำด้วยวัตถุดิบอื่นๆอีก
เช่น ใบลานและใบตาล ซึ่งทำกันไม่มากนักส่วนมากนิยมสานหมวก งอบ หรือ กุบ
และก่องข้าวเล็กๆ
ที่มา
วิบูลย์ ลี้สุวรรณ.ชุดมรดกศิลปะหัถกรรมไทย เครื่องจักสานไทย. กรุงเทพ: มูลนิธิสารานุกรมวัฒนธรรมไทย.ธนาคารไทยพานิชย์.๒๕๔๒. ๑๕ เล่ม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น