วันเสาร์ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2556

ปราสาทบ้านโนนธาตุ (Prasat ban none that)

          
        ปราสาทบ้านโนนธาตุ  (Prasat ban none that) หรือ ปราสาทห้วยทับทัน ตั้งอยู่ในบริเวณวัดปราสาทพนาราม หมู่ 1  ตำบลปราสาท  อำเภอห้วยทับทัน  จังหวัดศรีสะเกษ ในตำแหน่งเส้นรุ้ง (longtitude)      ที่ 15 องศา  05 ลิปดา  55 ฟิลิปดาเหนือ  เส้นแวง (latitude)  ที่ 104  องศา  02 ลิปดา   05 ฟิลิปดาตะวันออก   อยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอห้วยทับทัน 7 กิโลเมตร  อยู่ห่างจากศาลากลางจังหวัดศรีสะเกษ          45  กิโลเมตร  (ถนนหลวงหมายเลข 226  แยกไปอีก  7 กิโลเมตร)
            ปราสาทบ้านโนนธาตุ  ตั้งอยู่บนเนินดินขนาดใหญ่  ในอดีตเคยมีร่องน้ำร้อมรอบ ปัจจุบัน       ถูกไถกลบจากการทำนาจนเกือบหมดสิ้น  คงเหลือเพียงบางส่วนทางด้านทิศตะวันตกเท่านั้น           องค์ประกอบของโบราณสถานแห่งนี้มีดังนี้





1. องค์ปราสาท
         ตั้งบนฐานศิลาแลงสี่เหลี่ยมจัตุรัส ขนาด 3.04 เมตร มี 3 องค์  ปราสาทกลางสูง 13 เมตร ส่วนสององค์ที่ขนาบเหนือใต้ สูง 15 เมตร  เป็นรูปสี่เหลี่ยมย่อมุม    ยอดทรงเรียวแหลม ก่อด้วยอิฐสอปูน  ลักษณะคล้ายปราสาทศรีขรภูมิ  แต่มีขนาดเล็กกว่า   ทำประตูหลอกไว้ทุกทิศ  แต่ที่เข้าออกได้จริงๆ   คือ ประตูที่อยู่ทางด้านตะวันออกของปราสาทองค์กลางเท่านั้น  กรอบและเสาประตูทำด้วยหินทราย  ทับหลังปราสาทองค์กลาง  จำหลักเป็นภาพพระอิศวรและพระนางปรารพตี  (อุมา)  ทรงโคศุภราช (นนทิ)   ทับหลังปราสาทด้านทิศใต้  จำหลักเป็นภาพเทวดา และอสูรกวนเกษียรสมุทร  แต่ภาพถูกทำลายและลบเลือนไปอย่างน่าเสียดาย  หน้าประตูปราสาทองค์ทิศเหนือและทิศใต้  เคยมีพระพุทธรูปหินทราย ปัจจุบันเหลือเพียงซากปรักหักพัง
2. กำแพงแก้ว
         เป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดกว้าง 27 เมตร ยาว 29 เมตร ก่อด้วยศิลาแลงล้อมรอบ สูงประมาณ 1.50 เมตร มีประตูเข้าได้2 ทาง  คือทางด้านทิศเหนือและด้านทิศตะวันออก ปัจจุบันกำแพงแก้วได้พังลงมาโดยเฉพาะทางด้านทิศตะวันออกแทบจะไม่เหลือ  นอกจากนี้ยังมีการก่อสร้างอุโบสถปิดบังภูมิทัศน์  ซึ่งทำให้บดบังแสงจันทร์  และแสงอาทิตย์ที่จะส่องเข้าไปกระทบองค์ศิวลึงก์ ตามศรัทธาความเชื่อของศาสนาฮินดู
3.สระน้ำ หรือ บาราย
         จากบริเวณปราสาทไปทางทิศตะวันออกประมาณ 100 เมตร จะมีสระน้ำขนาดใหญ่เป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า  ขนาด200x400 เมตร  มีน้ำขังตลอดปี คันขอบสระมีต้นไม้ขนาดใหญ่ขึ้นโดยรอบ       นักโบราณคดีสันนิษฐานว่า   บริเวณดังกล่าวน่าจะเคยเป็นชุมชนโบราณมาก่อน  นอกจากจะมีคูน้ำล้อมรอบบริเวณเนินดินซึ่งเป็นสถานที่สร้างปราสาทแล้ว ยังมีการขุดพบหม้อ ไห โบราณคนโฑ  กระปุกน้ำหอม ลูกปัดและเครื่องประดับ  ตลอดจนเครื่องสำริดอื่นๆเป็นจำนวนมาก





               ปราสาทบ้านโนนธาตุ  สันนิษฐานว่าองค์ปราสาทน่าจะมีการก่อสร้างเพิ่มเติมภายหลัง       ทั้งนี้เพราะโครงสร้างทางสถาปัตยกรรมแตกต่างไปจากศิลปะเขมรโบราณทั่วๆไป  ซึ่งเป็นปรางค์และยอดบนสุดเป็นบัวศิลาจำหลัก  แต่ชั้นพักขององค์ปราสาทแห่งนี้มีลักษณะทรงข้าวบิณฑ์ ซึ่งเป็นศิลปะสุโขทัยมากกว่าจะเป็นศิลปะลาว เพราะศิลปะลาวส่วนใหญ่จะเป็นสี่เหลี่ยมไม่มีลวดลายประดับมากนัก  แต่ศิลปะดั้งเดิมแบบเขมรก็ยังหลงเหลือปรากฎอยู่ คือฐานศิลาแลง  กำแพงแก้วและทับหลังที่จำหลักเป็นภาพในเรื่องรามายณะ  น่าจะสร้างในราวพุทธศตวรรษที่ 16-17  ซึ่งเป็นศาสนาแบบฮินดู  ก่อนที่จะเปลี่ยนมาเป็นพุทธสถานดังที่ปรากฏในปัจจุบัน





ที่มา

(ข้อมูลจากหนังสือ รวมศาสนสถานโบราณในจังหวัดศรีสะเกษโดยคุณสำลี  ศรปัญญา)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น