มนุษย์คิดทำเครื่องจักสานมาตั้งแต่สมัยใดไม่ปรากฏหลักฐานไม่แน่นอน
แต่ได้พบร่องรอยของเครื่องจักสานบนเครื่องปั้นดินเผาสมัยก่อนประวัติศาสตร์ซึ่งเป็นหลักฐานยืนยันว่า มนุษย์อาจจะสามารถทำเครื่องจักสานได้ก่อนสมัยประวัติศาสตร์และทำต่อมาในสมัยประวัติศาสตร์ ดังปรากฏรอยภาชนะจักสานบนผิวภาชนะเครื่องปั้นดินเผาสมัยก่อนประวัติศาสตร์ชิ้นหนึ่ง จากแหล่งโบราณคดีสมัยก่อนประวัติศาสตร์
บ้านเชียง อำเภอหนองหาน จังหวัดอุดรธานี เป็นภาชนะเล็กๆ ปากแหลม
ก้นสี่เหลี่ยม
(ปัจจุบันอยู่ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร กรุงเทพมหานคร) และภาชนะดินเผาทรงกระบอกเล็กๆอีกชิ้นหนึ่งจาก แหล่งโบราณคดีจังหวัดลพบุรี (ปัจจุบันอยู่ที่พิพิธภัณฑ์สมเด็จนารายณ์ จังหวัดลพบุรี)
ภาชนะดินเผาก่อนประวัติศาสตร์ทั้งสองชิ้นดังกล่าว มีรอยภาชนะจักสานขัดปรากฏบนผิวด้านนอก จึงสันนิษฐานว่าทำขึ้นโดยใช้ดินเหนียวยาไล้ลงไปในภาชนะจักสาน เมื่อดินแข็งและแห้งแล้วจึงนำไปเผาไฟ
ไฟจะไหม้ภาชนะจักสานซึ่งเป็นแม่แบบหมดเหลือดินเผาที่มีรูปร่างเช่นเดียวกับภาชนะจักสานซึ่งเป็นแม่แบบ
จึ่งปรากฏรอยสานที่ผิวด้านนอกตามรวดรายต้นแบบภาชนะเครื่องปั้นดินเผาสมัยก่อนประวัติศาสตร์ดังกล่าว เป็นหลักฐานสำคัญที่อาจสันนิษฐานได้ว่ามนุษย์สมัยก่อนประวัติศาสตร์ในประเทศไทยรู้จักทำเครื่องจักสานมาก่อนการทำเครื่องปั้นดินเผาและการทำเครื่องปั้นดินเผายุคแรกอาจจะทำโดยการใช้ดินเหนียวยาไล้ลงในแม่แบบ (pressing intomould)
ทิ้งไว้ให้ดินแห้งแล้วจึงนำไปเผา ซึ่งเป็นกรรมวิธีทำเครื่องปั้นดินเผายุคเริ่มแรก
ก่อนที่จะทำเครื่องปั้นดินเผาด้วยการตีด้วยไม้และหินดุ และการปั้นโดยใช้แป้นหมุนในยุคต่อมา สิ่งที่ใช้เป็นรูปแบบ (mould) ในการทำเครื่องปั้นดินเผาครั้งแรกๆ อาจจะเป็นเปลือกผลไม้ เช่น
เปลือกน้ำเต้าหรือเปลือกผลไม้ชนิดอื่น
ก่อนที่จะใช้ภาชนะจักสานเป็นแม่แบบแต่การทำภาชนะดินเผามี่ทำขึ้นด้วยวิธีนี้
จะมีรูปทรงจำกัดตามสิ่งที่นำมาเป็นแม่แบบเท่านั้น ร่องรอยของเครื่องจักสานที่ปรากฏบนผิวภาชนะดินเผานั้นอาจสันนิษฐานได้ว่า
การทำเครื่องจักสานของมนุษย์ก่อนประวิศาสตร์ในประเทศไทยใช้วัตถุดิบที่แปรรูปด้วยเครื่องมือโลหะ เช่น
มีด พร้า จักหรือเหลาใช้วัตถุดิบเป็นเส้น “ตอก” ซึ่งมีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะทำเครื่องจักสานแต่ละชนิด
อาจนำหวายหรือไม้ไผ่มาจักเป็นเส้นก่อนที่จะนำมาสานเป็นภาชนะแทนที่จะใช้ใบไม้ เถาวัลย์
มาสานเป็นภาชนะโดยตรงเพราะร่องรอยของเครื่องจักสานที่ปรากฏบนภาชนะดินเผานั้น
แสดงว่าเป็นภาชนะที่สานด้วยตอกที่จักเป็นเส้นอย่างที่ใช้สานเครื่องจักสานปัจจุบัน
การแปรรูปวัตถุดิบที่ใช้ทำเครื่องจักสานเป็นพัฒนาการสำคัญในการทำเครื่องจักสาน เพราะการใช้วัสดุที่เป็นเส้นเล็ก เช่น
ตอก หวาย ย่านลิเภา
ทำให้มนุษย์สามารถประดิษฐ์เครื่องจักสานให้เป็นรูปทรงตามต้องการ และมีความประณีตงดงามยิ่งขึ้น
การทำเครื่องจักสานบางชนิดในบางท้องถิ่นช่างจักสานจะสานภาชนะหรือใช้ไม้ทำเป็นแม่แบบให้มีรูปทรงตามความต้องการก่อน แล้วจึงสานทับแม่แบบอีกทีหนึ่งเพื่อให้ได้เครื่องจักสานที่มีรูปร่างและขนาดเหมือนๆกันเป็นจำนวนมาก เช่น การเปี้ยด หรือกระบุง
บางท้องถิ่นในจังหวัดแพร่
ช่างจักสานจะสานกระบุงแม่แบบหรือต้นแบบก่อน แล้วจึงสานกระบุงที่ต้องการทำแบบที่สานไว้ หรือสานหมวกหรือกุ๊บในภาคเหนือ ซึ่งช่างจักสานมักใช้ไม้กลึงเป็นรูปหมวกเป็นแม่แบบ
แล้วสานโครงหมวกตามแม่แบบที่เป็นไม้นั้นแล้วจึงบุด้วยใบราณหรือใบตาลอีกชั้นหนึ่ง
วิธีนี้จะทำให้หมวกมีรูปร่างเหมือนกันและมีขนาดเท่าๆกัน นอกจากนี้ก็มีการสานคุหรือแอ่ว
สำหรับตรีข้าวของภาคเหนือซึ่งเป็นเครื่องจักสานขนาดใหญ่ที่ใช้ตอกขนาดใหญ่ช่างจักสานจึงต้องขุดดินเป็นหลุมเป็นแม่แบบ
แล้วลงไปสานในหลุมซึ่งมีหลุมดินเป็นแม่แบบบังคับให้เครื่องจักสานมีรูปทรงตามต้องการ
การใช้เครื่องจักสานโดยใช้แม่แบบนี้ช่วยให้ได้เครื่องจักสานที่รูปร่างเหมือนกันเป็นจำนวนมาก หรือต้องการให้ได้สานเครื่องจักสานรูปทรงแปลกๆจึ่งต้องใช้แม่แบบ เช่น
ต้องสานแจกันการสานเป็นรูปสัตว์ในประเทศจีน
จึงใช้ตอกสานหุ้มทับแจกันดินเผาหรือเครื่องปั้นดินเผารูปสัตว์โดยตรง
ทำให้ได้เครื่องจักสานที่มีรูปทรงตามแม่แบบนั้นๆ
ดังกล่าวแล้วจะเห็นว่า
การทำเครื่องจักสานเป็นหัตถกรรมสำคัญยิ่งประเภทหนึ่งในสังคมเกษตรกรรม
เพราะเป็นเครื่องมือเครื่องใช้สามารถสานขึ้นใช้เองจากวัตถุดิบที่อยู่ในแต่ละท้องถิ่น การสร้างรูปทรงและกรรมวิธีในการทำเครื่องจักสานยุคแรกๆ โดยทั่วไปจะไม่แตกต่างกันนัก ตั้งแต่การนำใบไม้ เถาวัลย์
มาสานเป็นภาชนะ
สานเป็นเสื่อหรือเครื่องนั่ง ปูนอน นำใบมะพร้าว
ใบตาล ใบลาน
และเถาวัลย์มาสานเป็นภาชนะอย่างหยาบๆสำหรับใส่สิ่งของซึ่งทำกันทั่วไป เช่น
เครื่องจักสานของชนพื้นเมืองในทวีปออสเตเลีย เครื่องจักสานของชาวเกาะสุมาตรา ในประเทศอินโดนีเซีย
และเครื่องจักสานของชาวอินเดียนแดงโบราณในทวีปอเมริกา จนถึงการทำเครื่องจักสานที่มีรูปทรงง่ายๆและสานอย่างหยาบๆในภาคใต้ของไทย
โดยนำใบมะพร้าวมาสานเป็นภาชนะอย่างง่ายๆสำหรับใส่หญ้า เรียก
กอนอ หรือ ลอม
และนำใบจาก ใบหลาวโอน มาสานเป็นภาชนะสำหรับตักน้ำที่รัยกว่า หมา
หรือการใช้ตอกไม้ไผ่มาสานเป็น หลัว และ
สุ่มไก่ เป็นต้น
ที่มา
วิบูลย์ ลี้สุวรรณ.ชุดมรดกศิลปะหัถกรรมไทย เครื่องจักสานไทย. กรุงเทพ: มูลนิธิสารานุกรมวัฒนธรรมไทย.ธนาคารไทยพานิชย์.๒๕๔๒. ๑๕ เล่ม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น